ปูตินหารือกับอินเดีย ซึ่งภายหลังจากที่ทั่วโลกกำลังติดผลของการประชุมของสองผู้นำก็คือประธานาธิบดี โจ ไบเดน และประธานาธิบดีปูตินผู้นำรัสเซีย

ในการหาลือทางไกลในขณะที่ผู้นำของรัสเซียพึ่งจะเสร็จสิ้นภารกิจในการเดินทางเยือนอินเดียที่เป็นพันธมิตรของสหรัฐ ในความเคลื่อนไหวของเวทีกลางโลกกับการประชุมทางไกลระหว่างประธานาธิบดี โจไบเดน สหรัฐ กับ ประธานาธิบดี ปูติน ผู้นพรัสเซียที่มีขึ้นเมื่อเวลา22นาฬิกาที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย การประชุมดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดของทั้งสองฝ่าย

โดยมีความกังวลว่ารัสเซียกำลังเตรียมการบุกโจมตียูเครนโดยมีรายงานบอกว่ากองทัพรัสเซียตึงกำลังทหารจำนวนมากบริเวณชายแดนที่ติดอยู่กับยูเครนซึ่งกองทัพรัสเซียมีอยู่ประมาณ 95,000 นายขณะที่ยูเครนได้ตึงกำลังประมาณ 125,000 นาย

บริเวณใกล้ชายแดนพื้นที่พิพาทของกลุ่มกบฏกับรัสเซียและยูเครนแต่อย่างไรก็ตามโฆษกทำเนียบได้ปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวแล้วและไม่คาดหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะบรรลุข้อตกลงใดๆ

นอกจากนี้รัสเซียยังมีความเสียใจที่สหรัฐเตรียมที่จะคว่ำบาตรแต่ประธานาธิบดีปูตินก็พร้อมที่จะรับฟังข้อกังวลจากสหรัฐขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐเปิดเผยว่าสหรัฐมีความกังวลต่อหลักฐานที่บ่งชี้ไปว่ารัสเซียกำลังจะมีแผนบุกโจมตียูเครน

ซึ่งหากรัสเซียมีการดำเนินการดังกล่าวสหรัฐจะทำการตอบโต้ด้วยการใช้มาตรการคว่ำบาตรทางด้านเศรษฐกิจและแน่นอนว่ารัสเซียจะได้รับผลกระทบโดยแผนของรัสเซียมีทั้งบ่อนทำลายเสถียรภาพของยูเครนจากภายในรวมถึงใช้ปฏิบัติการทหารครั้งใหญ่

เพื่อโจมตียูเครนทั้งหมดนี้เรายังคงต้องติดตามเพราะว่าผลการประชุมอย่างเป็นทางการยังไม่ได้เปิดเผยออกมาจากภายใดทั้งสิ้นในตอนนี้ผู้นำของยูเครนเปิดเผยถึงแผนการเดินทางการไปเยือนในภูมิภาคดอแนตสก์ซึ่งเป็นสมรภูมิรบระหว่างกองทัพยูเครนกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธที่ฝักฝ่ายรัสเซีย

ในความขัดแย้งที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 14,000 คนนับตั้งแต่ปี 2557 ทั้งนี้ยังได้เปิดเผยว่ากองทัพยูเครนมีขีดความสามารถต่อสู้เอาชนะการโจมตีจากรัสเซียจากนั้นเองทางประธานาธิบดียูเครนก็เดินทางไปยังเมืองคาเคฟซึ่งเป็นศูนย์กลางผลิตอาวุธของยูเครน

เนื่องจากว่ามีการส่งรถถังรถหุ้มเกราะลำเรียงพลที่ผลิตจากโรงงานในเมืองคาเคฟโดยเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ที่ผ่านมานายกปูตินผู้นะรัสเซียพึ่งจะเดินทางไปที่ประเทศอินเดียเข้าพบปะหาลือนายกรัฐมนตรีของอินเดียเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิพาคีในด้านต่างๆ

โดยเฉพาะด้านการค้าความมั่นคงการรับมือกับการระบาดของโควิด-19รวมไปถึงประเด็นสถานการณ์ในภูมิภาคซึ่งมีการเน้นย้ำเจตนาโรมเสริมสร้างความร่วมมือด้านกลาโหมระหว่างกันรวมไปถึงการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์แล้วก็มีการลงนามข้อตกลงการลงทุนทั้งหมด28ฉบับครอบคุมเรื่องของเหล็กการต่อเรือถ่านหินและพลังงาน

 

สนับสนุนโดย.  ufabet เว็บหลัก