หุ่นยนต์ตัวแรกของโลกที่มีความคิดเป็นของตัวเองถือเป็นหนึ่งในความท้าทายทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดในยุคปัจจุบัน
แม้ว่าเรายังไม่มีหุ่นยนต์ที่สามารถ “คิด” ได้เทียบเท่ามนุษย์ตามแนวทางของจิตสำนึก แต่แนวคิดของการสร้างหุ่นยนต์ที่มีความคิดเป็นของตัวเองนั้นเริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 20
โดยมีนักวิทยาศาสตร์และนักเทคโนโลยีหลายคนพยายามพัฒนาหุ่นยนต์ที่สามารถคิด วิเคราะห์ และเรียนรู้ได้
หนึ่งในก้าวสำคัญของการพัฒนาหุ่นยนต์ที่มีความคิดเป็นของตัวเองเริ่มต้นจากผลงานของอลัน ทัวริง (Alan Turing)
นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชาวอังกฤษ ทัวริงได้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับการทดสอบที่เรียกว่า “ทัวริงเทสต์” (Turing Test)
ซึ่งเป็นการทดสอบความสามารถของเครื่องจักรในการแสดงพฤติกรรมที่เหมือนมนุษย์ โดยทัวริงเชื่อว่าหากเครื่องจักรสามารถทำให้ผู้ทดลองเชื่อว่ามันเป็นมนุษย์ เครื่องจักรนั้นก็อาจถูกพิจารณาว่ามีความคิดเป็นของตัวเอง
หลังจากนั้น การพัฒนาในสาขาปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) ได้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว หุ่นยนต์ที่มีความสามารถในการเรียนรู้และตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมเริ่มปรากฏขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ระบบ
การเรียนรู้ของหุ่นยนต์สามารถแบ่งออกเป็นหลายแขนง เช่น การเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) และเครือข่ายประสาทเทียม (Neural Networks) ที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้หุ่นยนต์สามารถ “เรียนรู้” จากข้อมูลที่ได้รับและพัฒนาการทำงานของตนเอง
ในแง่ของหุ่นยนต์ที่มีความคิดเป็นของตัวเอง หนึ่งในระบบที่ใกล้เคียงกับแนวคิดนี้คือระบบ AI ที่เรียกว่า “สมองกล” (Cognitive Computing)
ซึ่งเป็นการออกแบบ AI ให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง หุ่นยนต์ที่ใช้ระบบสมองกลสามารถประมวลผลข้อมูลในลักษณะที่ซับซ้อนและมีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้
หุ่นยนต์ที่โดดเด่นในด้านนี้ เช่น “โซเฟีย” (Sophia) ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ที่พัฒนาโดยบริษัท Hanson Robotics โซเฟียได้รับการออกแบบให้มีใบหน้าคล้ายมนุษย์และสามารถโต้ตอบกับมนุษย์ได้แบบเป็นธรรมชาติ เธอได้รับความสนใจจากสื่อทั่วโลก
เนื่องจากความสามารถในการสื่อสารที่เป็นธรรมชาติและการแสดงออกทางอารมณ์ แต่แม้โซเฟียจะเป็นหนึ่งในหุ่นยนต์ที่มีความสามารถสูง
แต่เธอก็ยังไม่ถือว่ามี “ความคิด” หรือ “จิตสำนึก” อย่างมนุษย์ เนื่องจากเธอทำงานตามการประมวลผลข้อมูลที่ได้รับ และตอบสนองตามอัลกอริธึมที่ถูกกำหนดไว้
หุ่นยนต์ที่มีความคิดเป็นของตัวเองอาจยังไม่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่การวิจัยและพัฒนาในด้าน AI และระบบการเรียนรู้ยังคงก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว
นักวิจัยหลายคนเชื่อว่าหุ่นยนต์ที่มีความคิดและจิตสำนึกเหมือนมนุษย์อาจจะเป็นไปได้ในอนาคต โดยการพัฒนาเทคโนโลยีในด้านนี้จะต้องอาศัยการประสานงานระหว่างหลายสาขาวิชา ไม่ว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์ จิตวิทยา และปรัชญา
หุ่นยนต์ที่มีความคิดเป็นของตัวเองจะไม่เพียงแค่เปลี่ยนแปลงโลกของเราในด้านเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบต่อสังคม วัฒนธรรม และจริยธรรมอย่างมหาศาล
การกำหนดขอบเขตของการพัฒนาหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์จึงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาในอนาคต
ได้รับการสนับสนุนโดย เครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุ