ทำไมต้องสวมหน้ากากอนามัยออกจากบ้าน

ทำไมต้องสวมหน้ากากออกจากบ้าน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไข้ไวรัสโควิด ที่ยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่องและคร่าชีวิตคนบนโลกนี้แบบไม่เลือกหน้าไปแล้วมากมาย จวบจนกระทั่งกินเวลามาแล้วเกือบสามเดือน สถานการณ์เลวร้ายนี้ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบและคลี่คลายลงไปได้ เพราะจากอัตราการติดเชื้อของผู้ป่วยแต่ละประเทศ และอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยแต่ละประเทศ ที่ได้ทำการส่งข้อมูลนั้นให้กับองค์การอนามัยโลกนั้น มีเพิ่มมากขึ้นในแต่ละวัน

ซึ่งแต่ละประเทศก็ได้มีมาตรการป้องกันและดูแลของประเทศที่คล้ายๆกันไม่ว่าจะเป็นการล้างมือให้สะอาดและสวมหน้ากากอนามัย และประเทศไทยได้ออกมามีการแนะนำให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัย เมื่อต้องเข้าไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและแพร่ระบาดนั้น หมายความว่า ในระยะฟักตัวของเชื้อไวรัสนี้มีเวลา หนึ่งถึงสิบสี่วัน

หลังได้รับเชื้อมา ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการเป็นไข้ ไอแห้งๆ หรือ ไอแบบมีเสมหะ และสามารถแพร่เชื้อผ่านละออกน้ำลายหรือเสมหะได้ ดังนั้นการสวมหน้ากากซึ่งป้องกันละออกน้ำลายกระเด็นออกไป จึงป้องกันคนที่ได้รับเชื้อมาแล้วไม่ให้แพร่เชื้อต่อไป และทั้งยังป้องกันคนที่ยังไม่ติดเชื้อได้อีกด้วย แต่ด้วยภาวะที่ขาดแคลนหน้ากากอนามัยอย่างนี้นั้น ประชาชนทั่วไป

สามารถใช้หน้ากากผ้าที่สามารถตัดเองจากวัสดุที่บ้านหรือซื้อแบบสำเร็จรูปมาใช้ได้ ซึ่งข้อดีก็คือสามารถซักแล้วใช้ซ้ำได้ แต่ข้อควรระวังก็คือ หน้ากากนั้นควรจะสวมให้พอดี คลุมจมูกปาก และขอบของใบหน้า เพื่อไม่ให้อากาศลอดช่องว่าเข้ามาได้ และหน้ากากผ้าส่วนใหญ่มักจะไม่ได้กันน้ำ จึงควรทำการเปลี่ยนชิ้นใหม่เมื่อรู้สึกว่าหน้าการเริ่มชื้น

และที่สำคัญควรต้องเปลี่ยนหน้าการผ้าและทำความสะอาดทุกวัน โดยการถอดต้องไม่สัมผัสกับด้านหน้าของหน้ากากซึ่งเป็นบริเวณที่สกปรก และซักด้วยผงซักฟอกเหมือนเสื้อผ้าทั่วไป ดังนั้น กรมอนามัย จึงแนะนำให้แต่ละคนควรมีหน้ากากเป็นของตัวเองอย่างน้อยสามชิ้น เพื่อเอาไว้ใช้ สวมและสำรองซัก ทั้งนี้จากผลวิจัยได้ผลว่า การป้องกันการแพร่เชื้อในขณะที่ยังไม่มีอาการนอกจากการสวมหน้ากากแล้ว

ยังต้องให้ความสำคัญกับการเว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อยหนึ่งถึงสองเมตร ไม่ว่าคนนั้นจะมีอาการป่วยหรือไม่ รวมทั้งกับการล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่หากมีห้องน้ำ แต่ถ้าไม่มีก็ควรต้องล้างด้วยเจลฆ่าเชื้อ เพื่อเป็นการป้องกันจากการแพร่ระบาดของไข้ไวรัสตัวนี้ด้วย ซึ่งถ้าหากประชาชนทุกคนร่วมกันใส่หน้ากาก เชื่อว่าอัตรายอดผู้ติดเชื้อไข้ไวรัสตัวนี้ในประเทศจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด

 

 

สนับสนุนโดย   สูตรบาคาร่า sa gaming

ความสุขเล็กๆในช่วงวิกฤตโควิด-19

 

ความสุขเล็กๆในช่วงวิกฤตโควิด ในชีวิตประจำวันทุกคนคงคิดว่า เราจะใช้ชีวิตอย่างไรให้มีความสุข แต่ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเมื่อเราทุกคนอยู่ในช่วงของวิกฤต โควิด-19 แบบนี้ที่ทำให้ใครหลายๆคนวิตกกังวลไปตามๆกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพตัวเราเอง ครอบครัว หรือ คนรอบข้างว่าจะติดเชื้อนี้เมื่อไร แต่จริงๆแล้วสิ่งที่น่ากลัวอีกอย่างที่ตามมากับวิกฤตโควิด-19 ก็คือ สภาวะเศรษฐกิจในตอนนี้ ที่ดูเหมือนจะปิดตัว shut down

เพื่อการป้องกันและเซฟตัวเองกันทุกคน ไม่ว่าจะทั้งในประเทศไทยเองก็ดี หรือ ประเทศต่างๆ ก็ดี และการที่ทุกคนคงคิดว่าการทำงานที่บ้านคือคำตอบสุดท้ายเพื่อความปลอดภัยของทุกคน แต่จริงๆแล้วทุกคนก็ยังต้องดำเนินชีวิตต่อ เพื่อจะเอาตัวเองให้รอดจากวิกฤตโควิด-19 นี้ มีอีกมุมเล็กๆที่บางคนอาจจะมองข้ามไปหรือไม่ได้นึกถึงเค้าเลยสักนิด

เพียงเพราะคิดว่าเราเป็นพนักงงานตัวน้อยๆของบริษัทนั้น ที่คิดว่าไม่ได้มีผลอะไรกับบริษัทที่ทำงานอยู่ แต่ถ้ามองลึกลงไปคุณจะคิดถึงเค้า นั้นก็คือ เจ้าของบริษัท หรือ เจ้าของธุรกิจ คนที่คุณทำงานให้เค้าอยู่ไง เค้าคนนี้ที่จะผ่านวิกฤตโควิด-19 นี้ อย่างยากเย็นขนาดไหน บางคนจำเป็นจะต้องลดเงินเดือนตัวเองเพื่อเอาเงินบางส่วนไปให้ลูกน้องหรือพนักงานของตนเอง หรือ บางคนจำเป็นต้องให้เงินเดือนลูกน้องโดยเสียสละเงินเดือนตัวเอง ถ้าลูกน้องหรือพนักงานคุณเข้าใจสถานการณ์หรือวิกฤตโควิด-19 นี้สักนิด

จะรู้ทันทีว่าคนที่เป็นเจ้าของบริษัท หรือ เจ้าของธุรกิจ เค้ากำลังต้องสู้ขนาดหนักเพื่อที่จะให้ทุกคนที่เค้าต้องดูแลรอดจากวิกฤตนี้ให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวเค้า คู่ค้าเค้า หรือพนักงานทุกๆคนในบริษัทเค้า เค้าอาจจะต้องยอมเสียสละที่จะต้องทำทุกย่างเพื่อให้ทุกคนรอดแต่เค้าเองนั้นละที่จะเจ็บปวดที่สุด เพราะเค้าจะต้องแบกรับและรับผิดชอบทุกๆอย่างด้วยตัวเค้าเอง

ถ้าคุณคิดว่าการที่คุณเป็นลูกน้องเพียงตัวเล็กๆในบริษัท ที่เครียดและกังวลว่าจะใช้ชีวิตอย่างไรต่อไปให้มีความสุขแล้ว ลองนึกถึงคนที่คอยดูแลและให้โอกาสคุณสักนิด ลองทำให้เค้ามีความสุขจากรอยยิ้มหรือ ความรักในหน้าที่การงานของคุณบ้าง เพียงแค่นี้คุณอาจจะทำให้เค้าคนนั้น หรือ เจ้านายของคุณเอง มีกำลังใจและมีความสุขที่ได้ดูแลคุณก็ได้นะ 

 

ขอขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย   จีคลับ มือถือ

การคืนเงินประกันไฟฟ้าเพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน

การคืนเงินประกันไฟฟ้า เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านช่วงโควิด-19 ระบาดทำเรื่องเป็นเดือนแล้วแต่ยังไม่ได้เงินคืน

           จากที่ก่อนหน้านี้ทางการไฟฟ้าได้มีการออกมาประกาศว่าเจ้าของบ้านสามารถทำเรื่องขอคืนค่าเงินประกันไฟฟ้าได้โดยขึ้นอยู่กับจำนวนแอมป์ที่มีการทำประกันกับทางไฟฟ้าไว้ซึ่งถ้าหากบ้านไหนมีกำลังไปที่ 5 แอมป์ก็จะได้เงินประกันคืนประมาณ 1,000 บาทหรือถ้าหากบ้านไหนมีการประกันไฟฟ้าไว้ที่ 15 แอมป์ก็จะได้เงินคืนประมาณ 2,000 บาทซึ่งมีประชาชนต่างก็สนใจทำเรื่องขอคืนเงินประกันไฟฟ้ากันเป็นจำนวนมาก

  และทางการไฟฟ้าเองไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้านครหลวงการไฟฟ้าหรือว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคประชาชนก็สามารถพากันร่วมลงทะเบียนขอคืนเงินได้ซึ่งต้องดูว่าบ้านของตนเองนั้นใช้ไฟของการไฟฟ้านครหลวงหรือส่วนภูมิภาคแล้วให้ไปลงทะเบียนให้ถูกต้องแต่หลังจากที่มีการลงทะเบียนมานานเกือบ 2 เดือนนั้น

ยังพบว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ได้รับการคืนเงินประกันซึ่งถึงแม้ว่าจะมีการลงทะเบียนให้ข้อมูลถูกต้องแล้วแต่ก็ยังพบว่ายังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการอยู่จึงทำให้ชาวบ้านที่ต้องการเงินประกันมาใช้จ่ายในช่วงที่กำลังลำบากอยู่ในขณะนี้ต่างก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงใช้เวลาตรวจสอบและอนุมัตินานมากขนาดนี้บางคนได้รับเงินไปแล้วใช้จนหมดแล้วแต่บางคนก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้ายังไม่ได้รับแม้แต่ข้อความแจ้งผลการอนุมัติผ่านหรือไม่ผ่านซึ่งเมื่อเข้าไปเช็คสถานะผ่านทางเว็บไซต์ของการไฟฟ้าก็อยู่ในขั้นตอนของการรอการอนุมัติซึ่งในขณะนี้ผู้คนเป็นจำนวนมาก

ต่างก็รอ ข้อมูลว่าเมื่อไหร่การไฟฟ้าจะมีการจ่ายเงินคืนให้ครบกับทุกคนโดยเมื่อมีการทวงถามไปทางการไฟฟ้าก็ออกมาให้ข้อมูลว่าที่ล่าช้าเนื่องจากว่าประชาชนกรอกข้อมูลผิดพลาดเช่นบ้านใช้ไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวงแต่ไปลงทะเบียนของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหรือใส่ข้อมูลส่วนตัวผิดพลาดทั้งในเรื่องของเบอร์โทรศัพท์และเลขที่บัญชีจึงทำให้มีการดำเนินการต่อไปไม่ได้แต่จากการให้ข้อมูลของชาวบ้านหลายๆคนต่างก็พูดตรงกันว่าข้อมูลที่กรอกไปให้ก็ถูกต้องครบถ้วน

แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้รับเงินประกันการไฟฟ้ามาใช้ซึ่งในช่วงนี้ทุกคนต่างก็ต้องการเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายดังนั้นการไฟฟ้าควรจะมีการรีบดำเนินการทำเรื่องคืนเงินให้กับประชาชนให้เสร็จเรียบร้อยโดยเร็วซึ่งเราไม่รู้ว่าที่จริงแล้วที่การไฟฟ้ายังไม่สามารถคืนเงินให้กับประชาชนได้นั้นเป็นเพราะงบประมาณไม่มีแจกจ่ายให้กับประชาชนหรือไม่ 

และหลายคนก็ยังห่วงอีกว่า หากได้เงินคืนแล้วจะมีผลต่อการใช้ไฟฟ้าภายหลัง หรือไม่อีกด้วย

 

ได้รับการสนับสนุนโดย   ดูบอลสด

ขายของที่เย็นเพื่อที่จะคลายความร้อน

ขายของเย็นเพื่อคลายร้อน เมื่อเริ่มที่จะเข้าหน้าร้อนนั้นเราก็ต้องการที่จะอยากจะขายอะไรที่เย็นๆเพื่อที่เรานั้นจะได้คลายความร้อนนั้นด้วยและทำให้เรานั้นได้เงินอีกด้วย เพราะว่าในช่วงที่เวลานั้นร้องเรานั้นก็อยากที่จะกินอะไรเย็นเพื่อที่จะได้คลายความร้อนให้เรานั้นชื่นใจในเวลาที่เรานั้นกิน ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่สั้นๆนั้นก็ตาม เราไปดูกันว่าหน้าร้อนๆแบบนี้นั้นเรานั้นจะเลือกที่จะขายอะไรกันดี  

 

  • น้ำแข็งใส  ที่เรานั้นต้องเคยกินไม่ว่ารุ่นไหนเพราะว่าด้วยเรื่องสีและหวาน  และยังมีเครื่องที่อยู่ในน้ำแข็งนั้นให้เรานั้นเลือกที่จะใส่ได้อีกว่าเรานั้นต้องการที่จะใส่กี่อย่างในเมื่อก่อนนั้นเรานั้นจะไปกินก๋วยเตี๋ยวนั้นเรานั้นจะต้องกินน้ำแข็งใส แต่ว่าเดี่ยวนี้นั้นไม่ค่อยที่จะมี  ถ้าจะมีก็ต้องแยกร้าน  การที่เรานั้นขายน้ำแข็งใสเพื่อที่ว่าเรานั้นจะได้กินคลายความร้อนนั้นมีให้เรานั้นเลือกมากมายว่าเรานั้นต้องการกินแบบไหน  เพราะว่าด้วยเรื่องของรูปแบบและการขายนั้นก็แตกต่างกันออกไป  ว่าเรานั้นเลือกที่จะขายแบบไหน 
  • น้ำปั่น  เมื่อหน้าร้อนนั้นเรื่องการที่เรานั้นขายน้ำเป็นเรื่องที่เรานั้นคิดว่าขายดีอย่างแน่นอนเพราะว่าขายน้ำปั้นนั้นต้องเย็นแต่ว่าถ้าใครนั้นดูดน้ำเข้าไปเร็วๆนั้นระวังจะจี๊ดได้เพราะว่าจะปวดหัวด้วยความเย็นนั้นเย็นขึ้นสมองเลย  การที่เรานั้นเลือกที่จะขายน้ำปั่นเป็นทางเลือกที่ดีอีกทาง แถมเรานั้นไม่ต้องลงทุนที่มากมายอีกด้วย  หรือว่าเรานั้นเลือกที่จะขายแต่น้ำผลไม้นั้นก็ได้ เพราะว่าเดี่ยวนี้คนไทยนั้นเลือกที่จะกินอะไรที่ดีต่อสุขภาพกัน  

 

  • ไอศครีม   การที่เรานั้นเลือกที่จะขายไอศกรีมนั้นเป็นทางเลือกที่ดีมากหรือว่าถ้าใครนั้นทำเป็นด้วยแล้วนั้นเป็นต่ออย่างมากเพราะว่าการที่เรานั้นจะขายไปครีมนั้นเป็นทางเลือกสำหรับคนที่อยากจะกินอะไรที่เย็นๆที่ช่วยคลายความร้อนนั้นคนส่วนใหญ่นั้นก็จะหันไปเลือกกินไอศครีมเพราะว่ามีรสชาติที่หวานและเย็นหรือว่าใครนั้นอยากที่จะแวกแนวนั้นก็เลือกการขายแบบว่าเป็นไอศครีมทอดนั้นก็ได้ 
  • หวานเย็น  มีใครนั้นรู้จักกันไหมเป็นน้ำหวานที่เรานั้นเอาไปแช่ในช่อฟิตเพื่อที่จะให้แข็งแต่ว่าในถุงนั้นเรานั้นอาจจะใส่เครื่องลงไปอย่างเช่น  มีน้ำลำไย  น้ำแดงที่มีเมล็ดแมงลัก  น้ำเขียว  น้ำส้ม น้ำกะทิ แบบนี้เป็นต้น เพราะว่ามีรสชาติที่หวานและเย็น แต่ว่าการกินนั้นเรานั้นก็กัดที่ตูดของถุง ได้รสชาติความเป็นบ้านๆนั้นดีด้วยนะ 

 

สนับสนุนโดย   ufabet