บินวนบนฟ้าเพื่อรับพร เส้นทางเป็นรูปหัวใจแคมเปญใหม่การบินไทยในช่วงปีใหม่นี้

           ในช่วงเวลานี้จะเห็นได้ว่าบริษัทการบินไทยได้มีการคิดค้นแคมเปญใหม่ๆขึ้นมาหลายอย่างเลยทีเดียวด้วยแคมเปญที่พูดขึ้นมานี้จะใช้ในช่วงประมาณปีใหม่ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นแคมเปญที่เปิดให้ลูกค้าของบริษัทการบินไทยได้ใช้สิทธิ์ที่นั่งบนเครื่องบินของการบินไทยรับพรในช่วงปีใหม่นี้  อย่างแคมเปญล่าสุดที่ทางบริษัทการบินไทยได้มีการคิดขึ้นมานั้นเป็นการกำหนดเที่ยวบินสุดพิเศษสำหรับลูกค้าการบินไทย

           เพื่อที่หากใครต้องการที่จะไปฉลองปีใหม่บนท้องฟ้าและต้องการขอพรบนฟ้าคุณสามารถที่จะขึ้นเครื่องบินไปขอพรบนท้องฟ้าในช่วงปีใหม่และยางฉลองปีใหม่บนท้องฟ้าได้ซึ่งในเดือนนี้ไม่เคยมีบริษัทที่ทำเกี่ยวกับการบินบริษัทไหนทำโครงการนี้มาก่อนเลยโดยโครงการนี้จะมีการจัดขึ้นเพียงแค่เที่ยวบินเดียวและวันเดียวเพียงเท่านั้นโดยมีการตั้งชื่อเอาไว้ว่าบิวรับพรปีใหม่สุขใจตลอดปี   ซึ่งโครงการนี้จะเป็นการให้ลูกค้าของบริษัทการบินไทยนั่งเครื่องบินเพื่อไปเฉลิมฉลองกับคนรู้ใจในช่วงปีใหม่ซึ่งกำลังจะขึ้นศักราชใหม่ของปีพศ 2564 นั่นเอง 

          นอกจากนี้การที่ลูกค้าการบินไทยได้มีการซื้อตั๋วเพื่อจะเข้าร่วมโครงการบินรับพรปีใหม่นี้ภายในช่วงเวลาที่อยู่บนเครื่องบินทางด้านผู้บริหารการบินไทยได้มีการจัดกิจกรรมไว้สำหรับลูกค้าที่มีการเข้าร่วมโครงการทัวร์ในครั้งนี้ด้วยแน่นอนว่าเมื่อตั้งชื่อโครงการว่าเป็นการรับพรเพราะฉะนั้นก็จะมีช่วงหนึ่งที่ลูกค้าการบินไทยจะมีการสวดมนต์ขอพรในช่วงปีใหม่โดยมีการเรียนเชิญผู้ที่มีความรู้ความสามารถอย่าง  ดร.   คฑาชิน  บัญชร  จะมาเป็นพิธีกรบนเครื่องบินด้วย 

         โดย จะพาสวดคาถาชินบัญชรเพื่อเป็นการรับพลังงานด้านบวกให้กับผู้ที่เข้าร่วมแคมเปญในครั้งนี้อีกครั้งถึงแม้ว่าจะมีการบินอยู่ด้านบนทางด้านบริษัทการบินไทยก็จะมีการเตรียมอาหารรสเลิศไว้คอยบริการลูกค้าการบินไทยอย่างดีมีเพลงให้ฟังเบาๆซึ่งผู้ที่ขับร้องนั้นก็จะเป็นพนักงานบนเครื่องบินการบิน

        และแคมเปญนี้สิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดก็คือช่วงระยะเวลาที่ลูกค้าการบินไทยอยู่บนท้องฟ้านั้นกัปตันเครื่องบินจะมีการขับเครื่องบินวนอยู่บนท้องฟ้าประมาณถึง 3 ชั่วโมงด้วยกันด้วยภายใน 3 ชั่วโมงนี้จะมีตารางการบินไปยังจุดต่างๆลักษณะของเส้นทางการบินนั้นมีความคล้ายกับรูปหัวใจและตลอดเส้นทางที่บินผ่านนั้นก็จะเป็นการบินผ่านสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา 

           ไม่ว่าจะเป็นการบินผ่านพระธาตุดอยตุงหรือพระธาตุดอยสุเทพรวมถึงจะบินผ่านพระธาตุลำปางหลวงและยังมีพระธาตุอื่นๆอีกมากมายที่เป็นพระธาตุของประเทศไทยทั้งหมดรายการบินในครั้งนี้จะไม่ได้มีการนำเครื่องบินลงจอดเพื่อให้ลูกค้าลงไปไหว้แต่จะเป็นการไหว้พระธาตุต่างๆที่อยู่บนท้องฟ้า  

 

 

ขอขอบคุณที่ให้การสนับสนุนโดย.    ทางเข้า UFABET ภาษาไทย

ตรวจสอบรายได้ของ บอสวรยุทธ  อยู่วิทยา ผู้ต้องหาชนตำรวจแล้วหนี สู้คดี 10 จนหลุด

      ในนาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก   บอส  วรยุทธ  อยู่วิทยา เนื่องจากว่าเขากำลังดังอย่างมากจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเกือบสิบปีที่แล้วที่เขาขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมทั้งรากศพผมเจ้าหน้าที่ตำรวจไปจนถึงบริเวณหน้าบ้านพักของเขาเองซึ่งในตอนนั้นเขาได้ออกข่าวว่าตัวเขานั้นไม่ได้เป็นคนขับรถแต่เป็นเพียงแค่คนขับรถของเขาที่เป็นคนขับรถเข้ามาและขับรถชนตำรวจอย่างไรก็ตามได้มีหลักฐานสำคัญยืนยันว่า  บอส  วรยุทธ  อยู่วิทยา

เป็นคนขับรถชนตำรวจและได้มีการส่งเรื่องฟ้องศาลมีการต่อสู้กันอย่างยาวนานจนล่าสุดในปี 2563 นี้ศาลก็ตัดสินออกมาว่า  บอส  วรยุทธ  อยู่วิทยาไม่มีความผิดซึ่งทั้งที่พยานหลักฐานต่างๆก็สามารถระบุได้ชัดเจนแล้วว่า บอส  วรยุทธ  อยู่วิทยา มีความผิดเพราะเป็นคนขับรถชนด้วยตนเอง

และยังเป็นการชนแล้วหนีอีกด้วยแต่ด้วยอำนาจเงินเนื่องจากว่า บอส  วรยุทธ  อยู่วิทยา นั้นมีพ่อเป็นเจ้าของเครื่องดื่มชูกำลัง  Red Bull ทำให้หลายคนชื่อว่าเขาใช้อำนาจเงินในการสั่งปิดคดีในครั้งนี้ทำให้ตลอดระยะเวลา 10 ปีมานี้  บอส  วรยุทธ  อยู่วิทยา ไม่ได้ถูกตัดสินจำคุกเลยก็ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ

โดยสามารถไปใช้ชีวิตในต่างแดนจนในที่สุดปีนี้ได้มีการตัดสินคดีเนื่องจากว่าคดีความใกล้จะหมดอายุและแน่นอนว่าการตัดสินก็เป็นอย่างที่คนทราบกันดีนั่นก็คือเขาหลุดพ้นจากคดีทำให้หลายคนนั้นไปเช็คประวัติความร่ำรวยของ บอส  วรยุทธ  อยู่วิทยา ว่านอกจากเขาจะรวยจากการเป็นทายาทของเครื่องดื่มชูกำลังRed Bull  แล้วก็ยังรวยจากช่องทางไหนอีกบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าจากการตรวจสอบนั้นพบว่าเขาเป็นผู้บริหารศึกษาบริษัทบริการและแต่ละบริษัทนั้นในแต่ละปีก็ได้กำไรมหาศาลซึ่งยอดรวมของสารบริษัทที่มีรายได้ให้กับเขานั้นมากถึง 1,600 ล้านบาทเลยทีเดียว 

โดยในขณะนี้นาย วรยุทธ  อยู่วิทยา  เป็นผู้บริหารของบริษัท คาวาลลิโนมอเตอร์จำกัด  และยังเป็นผู้บริหารของบริษัทเกรทดีไซน์แอนด์ไลฟ์สไตล์จำกัดและยังมีบริษัท owari No seraph จำกัดซึ่งแค่ทั้ง 3 บริษัทนี้ก็สร้างกำไรมหาศาลให้กับนาย วรยุทธ  อยู่วิทยา เป็นอย่างมากโดยที่เขานั้นไม่จำเป็นต้องใช้เงินของพ่อเขาในการต่อสู้คดีเลย

เพราะเพียงแค่เงินเก็บของเขาที่เขาเป็นเจ้าของบริษัทนี้ก็สร้างรายได้มหาศาลให้เขานำเงินนั้นไปปิดคดีของเขาได้เอ็งอยู่แล้ว และถึงแม้ว่าคนต้องการที่จะให้มีการรื้อคดีขึ้นมาใหม่แต่ท้ายที่สุดแล้วทางด้านอัยการก็มีการออกมาระบุอย่างชัดเจนแล้วว่าไม่สามารถที่จะทำการส่งฟ้องนายวรยุทธ  อยู่วิทยา  ได้อีกแล้วเพราะถือว่าคดีเป็นการสิ้นสุดเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นเอง

 

 

สนับสนุนโดย    เซ็กซี่ บาคาร่า ทดลอง

กองทัพเรือยืนยันจะซื้อเรือดำน้ำถึงแม้ ประเทศไทยยังต้องการเงินไปบริหารประเทศ 

           เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าสถานการณ์ของประเทศไทยตอนนี้กำลังประสบปัญหาอย่างหนักเกี่ยวกับเรื่องของการเงินมีการกู้ยืมเงินกองทุนของต่างประเทศมาเป็นจำนวนมหาศาลทั้งก่อนหน้านี้ก็เคยกู้มาแล้วแล้วยังใช้ไม่หมดปัจจุบันหลังจากที่มีการระบาดของไวรัสโคโรนาก็มีการกู้เพิ่มซึ่งเงินจำนวนที่กู้เข้ามานั้นก็หวังที่จะเอามาช่วยเหลือประชาชนที่กำลังประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจอยู่ในขณะนี้

และเงินจำนวนหนึ่งก็ต้องเอามาบริหารประเทศเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยให้มีความก้าวหน้าแต่อย่างไรก็ตามเงินจำนวนดังกล่าวที่กู้ยืมมาก็ยังไม่ได้เพียงพอที่จะสามารถช่วยเหลือประชาชนที่กำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ได้หมดทุกคนเลยแต่กลับมีข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องของกองทัพเรือที่ยืนยันอยากจะได้เงิน

ซึ่งเป็นเงินงบประมาณที่รัฐบาลจะต้องมีในการแบ่งสรรให้กับหน่วยงานต่างๆเพื่อนำไปซื้อเรือดำน้ำโดยก่อนหน้านี้เมื่อมีข่าวออกมาก็มีการออกมาต่อต้านมีกระแสต่อต้านออกมามากมายเกี่ยวกับเรื่องของการนำงบประมาณที่จำเป็นต้องใช้งานอยู่ในตอนนี้ไปซื้อเรือดำน้ำเพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีใครเห็นด้วยเกี่ยวกับการป้องนำงบประมาณจำนวนมหาศาลนี้ไปซื้อเรือดำน้ำที่ไม่ได้ใช้งานอะไรเลย

เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยซื้ออาวุธถังรถถังหรือเรือดำน้ำลำอื่นๆมาแล้วซื้อมาประเทศไทยก็ไม่ได้ไปก่อสงครามกับใครและไม่เคยมีความจำเป็นที่จะต้องใช้งานแต่รัฐบาลก็ยังผลาญเงินเขาประมาณตรงนี้เอาไปซื้ออาวุธเข้ามาในประเทศและตอนนี้สถานการณ์ของประเทศไทยไม่ได้ดีไม่ได้มีเงินมาก

นักพอที่จะนำเงินไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกี่ยวกับการซื้อของที่ไม่มีความจำเป็นในช่วงนี้แต่ทางรัฐบาลและทางกองทัพเรือเองก็ยืนยันว่าจำเป็นที่จะต้องซื้อโดยมองว่าเมื่อซื้อมาแล้วอีก 10 ปีข้างหน้าใช้งานได้เพราะกว่าจะซื้อมาแล้วต้องการใช้งานกว่าจะฝึกทหารให้ใช้งานเป็นก็ต้องใช้ระยะเวลาอีกครั้งยังไปเทียบกับต่างประเทศอีกด้วยว่าขนาดประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศพม่าก็ยังมีเรือดำน้ำใช้กันแล้วดังนั้นทางกองทัพเรือรัฐบาลจึงเห็นสมควรว่าควรจะมีการซื้ออุปกรณ์เรือดำน้ำเข้ามาไว้ในประเทศไทยซึ่งการจัดสรรงบประมาณนี้ได้มีการพูดคุยและเตรียมการที่จะจัดซื้อเรือดำน้ำมาจากประเทศจีน

            อย่างไรก็ตามหลายคนมองว่าอาหารเศรษฐกิจของไทยดีมีเงินหมุนเวียนในประเทศเป็นของตนเองไม่ต้องไปกู้เงินต่างประเทศมาการซื้อเรือดำน้ำไม่ใช่ปัญหาและไม่ใช่เรื่องที่คนไทยจะต้องมาออกมาต่อต้านแต่ในขณะนี้ประเทศไทยยังต้องไปกู้ยืมเงินประเทศอื่นมาใช้งานเพื่อบริหารประเทศดังนั้นจึงไม่สมควรที่จะเอาเงินที่ไปกู้ยืมมาไปใช้จ่ายในเรื่องที่ไม่จำเป็นนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  บาคาร่า sa

พิษ Covid อาจทำให้ตำนานอ่างอบนวด  อย่างโพไซดอนอ่างแตก 

           สำหรับใครที่ชื่นชอบการเที่ยวกลางคืนและโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพศชายย่อมต้องรู้จักอาบอบนวดชื่อดังของกรุงเทพฯซึ่งเป็นอ่างในตำนานที่มีการเปิดมานานหลายสิบปี  อย่างโพไซดอนอย่างแน่นอน   โดยอาบอบนวดนี้มักจะมีลูกค้าเพศชายหลายช่วงอายุไปใช้บริการและมีการเปิดให้บริการลูกค้าต่อเนื่องมานานเรียกได้ว่าเป็นสถานที่อาบน้ำชื่อดังเลยก็ว่าได้  

    อย่างไรก็ตามอย่างที่เรารู้ดีกันว่าในช่วงเวลานี้สถานการณ์ของประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาการระบาดของไวรัสโควิช- ดังนั้นจึงทำให้มีลูกค้าเป็นจำนวนมากที่เป็นลูกค้าระดับ VIP ของอาบอบนวดโพไซดอนงดการไปใช้บริการที่สถานอาบอบนวดเป็นการชั่วคราว  สาเหตุนั้นก็เพราะว่าลูกค้าระดับ VIP เหล่านี้ต่างก็หวาดกลัวเรื่องของการติดเชื้อไวรัสนั่นเอง

      และจากสถานการณ์ที่มีลูกค้าลดน้อยลงนี้เองทำให้ทางผู้บริหารของอ่างอบนวดโพไซดอนอาจจะต้องมีการพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องของการเปิดให้บริการอาบอบนวดโพไซดอนในช่วงเวลานี้ซึ่งสถานการณ์ที่ไม่ค่อยมีลูกค้าแบบนี้ทางด้านอาบอบนวดเองอาจจะต้องปิดให้บริการและอีกปัจจัยหนึ่งซึ่งส่งผลต่อการพิจารณาการปิดอ่างอบนวดโพไซดอนนั่นก็เพราะว่า  สถานที่ที่มีการเปิดอ่างอบนวดโพไซดอนนั้นเป็นพื้นที่ที่เจ้าของอ่างอบนวดโพไซดอนได้มีการเช่าพื้นที่มาโดยเจ้าของที่แท้จริงของพื้นที่นี้คือ  รฟท. 

      และที่สำคัญในขณะนี้สัญญาการเช่าพื้นที่ระหว่าง โพไซดอน กับ รฟท. กำลังใกล้จะสิ้นสุดลงซึ่งแน่นอนว่าหากมีการต่อสัญญาณกันนั้นทางด้านโพไซดอนจะต้องมีการเสียค่าต่อสัญญาและการเช่าพื้นที่ใหม่อีกครั้งหนึ่งซึ่งราคาค่าต่อสัญญาในแต่ละครั้งนั้นมีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาทเลยทีเดียวทำให้เจ้าของ โพไซดอน  โดนมองว่าในขณะนี้ยังไม่เหมาะสมในการที่จะต่อสัญญาการเช่าพื้นที่ดังกล่าว  เพราะสถานการณ์ในตอนนี้ไม่ค่อยมีลูกค้ามาใช้บริการที่โพไซดอนอยู่แล้วดัง  และที่สำคัญการต่อสัญญาก็ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากดังนั้นทางด้านผู้บริหารของโพไซดอนอาจจะมีการพิจารณายกเลิกการทำธุรกิจอ่างอาบน้ำนี้  ซึ่งนั่นเท่ากับว่าจะเป็นการปิดตำนานอ่างอาบน้ำโพไซดอนเลยก็ว่าได้

       อะไรก็ตามเรื่องนี้ยังไม่ได้มีการออกมายืนยันแน่ชัดว่าสรุปแล้วทางผู้บริหารของโพไซดอนจะยังคงต่อสัญญาเช่ากับทาง  รฟท. หรือไม่  จะมีการคืนพื้นที่ยกเลิกการเช่าพื้นที่แล้วให้ทาง  รฟท. นำพื้นที่ดังกล่าวไปทำอย่างอื่น ซึ่งมีข่าวจากวงในว่าหากไม่มีการต่อพื้นที่จริงๆทางด้าน รฟท. อาจจะนำพื้นที่ของโพไซดอนนั้นมาทำเป็นโรงแรมระดับ 3 ดาวนั่นเอง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    ufabet บาคาร่าออนไลน์