หมูไทยแพงส่งผลทำให้ หมูลาวแพงตามไปด้วย 

         เช็คว่าในขณะนี้หลายคนที่มีโอกาสได้ไปเดินตลาดสดคงจะรู้ว่าราคาเนื้อหมูนั้นมีราคาค่อนข้างแพงเป็นอย่างมาก หมูไทยแพง หรือหากใครได้ติดตามข่าวสารก็จะรู้ว่าในขณะนี้เนื้อหมูนั้นมีราคากิโลกรัมละ 200 บาทไปแล้วและยังมีการทยอยปรับราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้หลายคนมีความเป็นกังวลใจว่าเมื่อเนื้อหมูในประเทศไทย

มีราคาแพงอาจจะมีการนำเข้าจากเนื้อหมูของต่างประเทศเข้ามาซึ่งมันจะส่งผลในระยะยาวว่าถ้าหากว่าหมูของไทยมีการปรับลดราคาแล้วมันจะแย่งกันแข่งขันเกี่ยวกับเรื่องของราคาระหว่างราคาของราคาหมูไทยและหมูของต่างประเทศนั้นเอง

           อย่างไรก็ตามในขณะนี้มีการรายงานออกมาเพิ่มเติมว่าความหวาดกลัวนั้นยังไม่คงเกิดขึ้นแน่นอนเนื่องจากในขณะนี้หมูของไทยที่แพงนั้นได้ไปส่งผลกระทบต่อหมูของประเทศเพื่อนบ้านเป็นที่เรียบร้อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศลาวกำลังได้รับผลกระทบตามไปด้วยเพราะประเทศเราเองนั้นก็มีการปรับเพิ่มราคาของเนื้อหมูเช่นเดียวกันซึ่งยิ่งของไทยแพงมากเท่าไหร่เนื้อหมูของประเทศลาวก็มีการปรับเพิ่มมากขึ้นแต่ระดับตามกันมาเท่านั้น 

       จากการเปิดเผยของสำนักงานข่าวของประเทศลาวระบุว่าในขณะนี้ผลกระทบจากเนื้อหมูของประเทศไทยที่ราคาแพงส่งผลกระทบต่อ supplier ของประเทศลาวที่มีการรับหมูของไทยไปขายทำให้ราคาหมูในตลาดของประเทศลาวก็มีการปรับเพิ่มราคาเช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นในตลาดสดหรือแม้แต่ขายในเมืองหลวงอย่างซุปเปอร์มาร์เก็ตราคาของเนื้อหมูในประเทศลาว

ก็มีการปรับเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกันแต่เดิมนั้นปกติแล้วประเทศลาวจะขายหมูในราคากิโลกรัมละเพียงแค่ 100 ถึง 130 บาทเท่านั้นแต่หลังจากที่ประเทศไทยมีการปรับราคาเนื้อหมูของไทยให้แพงมากขึ้นประเทศลาวก็มีการปรับเพิ่มราคาเป็นกิโลกรัมละ 145 บาทเช่นเดียวกันซึ่งราคาที่มีการปรับเพิ่มขึ้นมานี้ใช้ระยะเวลาเพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้นหลังจากที่ไทยประสบปัญหาเนื้อหมูแพง

       อย่างไรก็ตามการที่ประเทศลาวได้มีการเพิ่มราคาเนื้อหมูให้มีการแทงมากขึ้นนั้นมันส่งผลกระทบต่อประชาชนของประเทศลาวเช่นเดียวกันเนื่องจากว่าในขณะนี้ประเทศลาวกำลังเจอกับปัญหาค่าครองชีพที่ค่อนข้างสูงในขณะเดียวกันก็มีภาวะเงินเฟ้อเกิดขึ้นซึ่งมันจะส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศลาวและการใช้ชีวิตของประชาชนเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้เราเองก็ยังต้องเจอกับปัญหาเรื่องของการระบาดของไวรัสโควิตไม่แตกต่างจากประเทศไทยส่งผลทำให้ประเทศลาวนั้นยังไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปเที่ยวดังนั้นไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหรือร้านอาหารถึงแม้ว่าจะเปิดให้บริการแต่ก็ยังไม่มีรายได้เข้ามาเพราะไม่มีลูกค้าไปใช้บริการนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย.    ufabet เว็บหลัก

กระทรวงการคลัง ยืนยันไม่ได้กู้เงินมาเพื่อซื้อทองคำ

           มีข่าวลือออกมาเยอะมากในตอนนี้เกี่ยวเงินที่รัฐบาลมีการกู้มา  กระทรวงการคลัง ว่ารัฐบาลไม่ได้กู้เงินมาเพื่อบริหารจัดการแก้ไขปัญหาของประเทศ แต่เป็นการกู้เงินมาเพื่อทำการซื้อทองคำแทน ซึ่งจำนวนทองคำที่มีการลือกันอยู่ในตอนนี้นั้น มีการระบุว่าจะมีการซื้อมากถึง 43.5 ตันเลยทีเดียว  

     โดยข่าวลือยังมีการระบุอีกด้วยว่า สาเหตุที่ทางรัฐบาลตัดสินใจ นำเงินกู้มาเพื่อซื้อทองคำในครั้งนี้

เพราะต้องการที่จะเก็บทองคำเอาไว้เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ  แต่ทางกระทรวงการคลังได้ออกมาชี้แจง และยืนยันด้วยว่าเงินที่ทางรัฐบาลกู้มานั้น จะมีการกู้เอามาไว้สำหรับแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจของประเทศอย่างแน่นอน โดยในขณะนี้ทางรัฐบาลได้มีการเตรียมแผนการฟื้นฟูเอาไว้แล้ว

       อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับเรื่องของเขาเลยนะมีการเผยแพร่ผ่านทาง facebook ซึ่งการเผยแพร่นั้นได้มีการระบุว่ารัฐบาลต้องการกู้เงินมาจำนวนหนึ่งเพื่อทำการซื้อทองคำเอาไว้เป็นการสำรองเงินทุนระหว่างประเทศซึ่งข้อความนี้ได้ถูกแชร์ต่อๆกันไปจนทำให้หลายคนนั้นเกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลได้มีการกู้เงินมา

           อย่างไรก็ตามทางด้านกระทรวงการคลังได้ออกมายืนยันเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าเงินจำนวนที่กู้มานั้นจะเอาไว้ใช้สำหรับแก้ไขปัญหาวิกฤตทางสังคมของประเทศไทยรวมถึงเอาไว้ใช้ในเรื่องของการฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยในขณะนี้เพราะขณะนี้ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาอย่างหนักเกี่ยวกับเรื่องของเศรษฐกิจและกระทรวงการคลังยังยืนยันด้วยว่าเงินที่กู้มาทั้งหมดนั้นจะไม่ถูกนำไปซื้อทองคำอย่างแน่นอน 

         อย่างไรก็ตามเราคงต้องรอดูกันต่อไปว่าเรื่องนี้จะเป็นเพียงแค่ข่าวลืออย่างที่กระทรวงการคลังระบุเอาไว้หรือไม่โดยเมื่อมีการกู้เงินมาแล้วทางรัฐบาลจะต้องมีการแจกจ่ายให้กับประชาชนรับทราบว่าเงินกู้ที่กู้มาทั้งหมดนั้นใช้จ่ายและจัดสรรไปทำกิจกรรมใดบ้างเพื่อความโปร่งใสของทางรัฐบาลเอง

      สำหรับเงินที่รัฐบาลมีการกู้เอามาใช้ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจนี้นับได้ว่าเป็นยอดเงินที่สูงมากๆหากเปรียบเทียบกับรัฐบาลชุดอื่นที่มีการกู้เงินมาเพราะรัฐบาลชุดนี้กู้เงินมาเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องของเศรษฐกิจก็จริงแต่เศรษฐกิจนั้นยังคงมีปัญหาอยู่เป็นอย่างมากทำให้เมื่อเศรษฐกิจไม่ดีขึ้นรัฐบาลก็ไม่มีเงินที่จะไปจ่ายหนี้ตามที่กู้เงินมาและภาระการชำระหนี้นั้นก็จะมาเป็นของประชาชนทุกคนอย่างแน่นอน 

     อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเงินกู้นั้นจะไม่ได้ถูกนำมาใช้จ่ายในการซื้อทองคำเก็บตุนเอาไว้แต่การที่รัฐบาลนำเงินมาแล้วไม่บริหารการจัดการประเทศแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจแต่เอาไปใช้จ่ายด้านอื่นเช่นเอาไปใช้จ่ายเกี่ยวกับเรื่องของกระทรวงความมั่นคงซึ่งเอาไว้ซื้ออาวุธสำหรับการป้องกันประเทศนั้นในช่วงเวลานี้ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่งเช่นเดียวกัน

 

สนับสนุนโดย.    gclub ทดลองเล่นฟรี

ขนมเข่งขนมเทียนยอดขายลดลง  50% ถึงแม้จะเป็นช่วงเทศกาลสารทจีน

ขนมเข่งขนมเทียนยอดขายลดลง  ในวันที่ 22 เดือนสิงหาคมปีพ.ศ. 2564 จะเป็นช่วงที่ชาวจีนให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลสารทจีนซึ่งเทศกาลนี้ไม่ใช่เพียงแค่คนจีนเท่านั้นที่จะมีการทำพิธีกราบไหว้บูชาบรรพบุรุษแม้แต่คนไทยเองก็เข้าร่วมพิธีนี้เช่นเดียวกัน

สำหรับวันเทศกาลสารทจีนนะโดยปกติแล้วผู้ที่ดีจัดงานเทศกาลสารทจีนจะต้องมีการซื้อทั้งของคาวของหวานกราบไหว้บูชาเทพเจ้าและบรรพบุรุษ

      ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมานั้นเมื่อถึงเทศกาลสารทจีนจะเป็นช่วงที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลายได้กำไรจากการขายของเป็นอย่างมากเนื่องจากว่ามีคนเป็นจำนวนมากที่จะต้องซื้อของไปกราบไหว้บูชาเทพเจ้าและบรรพบุรุษและของที่ขายได้ในราคาสูงมากนั้นก็เช่นไก่ต้ม  เป็ดต้ม  หมู  สามชั้นต้มเป็นต้น

       นอกจากนี้ในเทศกาลวันสารทจีนยังต้องมีการไหว้ขนมซึ่งเป็นขนมที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือขนมเข่งและขนมเทียนอย่างไรก็ตามมีการเปิดเผยมาจากจังหวัดพิษณุโลกโดยกลุ่มที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลคือกลุ่มขนมไทยแม่ตะเพียนออกมาระบุว่าในช่วงเทศกาลสารทจีนในปีพศ. 2564

นี้ปรากฏว่ายอดขายขนมเข่งขนมเทียนที่เคยได้ดีมาตลอดนั้นตกลงอย่างมากจากรายได้ที่เคยขายได้ในปริมาณมากก็ลดลงมาเกินกว่า 50% ยอดการสั่งซื้อจากลูกค้าหากเปรียบเทียบกับที่อื่นที่ผ่านมานั้นแทบจะมีการสั่งซื้อล่วงหน้าน้อยมากหรือแทบจะไม่มีลูกค้าสั่งซื้อ order ล่วงหน้าเลย

      ออเดอร์ขนมเข่งและขนมเทียนนั้นหายเกินไปกว่าครึ่งในช่วงประมาณปีที่แล้วนั่นก็คือปีพศ2563 ยังมีปริมาณการสั่งซื้อขนมเข่งและขนมเทียนอยู่ในระดับ 2000 กิโลกรัมแต่สำหรับในปีนี้นั้นยอดการสั่งซื้อลดลงเหลือแค่ประมาณ 1000 กิโลกรัมเพียงเท่านั้นเรียกว่าในปีนี้นั้นประชาชนบางคนไม่มีการไหว้ในวันสารทจีนหรือถ้ามีการไหว้นั้นก็ไหว้ในปริมาณที่น้อยมากเรียกว่าเป็นช่วงที่คนไทยนั้นรัดเข็มขัดกันมากขึ้นนั่นเอง

       สำหรับยอดการขายขนมเข่งขนมเทียนที่ลดลงนั้นไม่ใช่เพียงแค่ร้านค้าในจังหวัดพิษณุโลกเท่านั้นแต่ละร้านค้าทั่วประเทศนั้นมียอดการสั่งซื้อที่ลดลงมากเช่นเดียวกันเรียกได้ว่าทุกพื้นที่ที่เคยขายขนมเข่งขนมเทียนได้ในปริมาณมากนั้นปัจจุบันยอดลดลงเกินกว่า 50% ทุกจุด  

     อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าในปีนี้นั้นราคาของขนมเข่งขนมเทียนจะไม่ได้มีการปรับราคาเพิ่มมากขึ้นแต่จำนวนผู้ซื้อนั้นก็ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องโดยในขณะนี้ขนมเข่งขนมเทียนได้มีการทำออกมาจำหน่ายขายให้กับประชาชนในราคากิโลกรัมละเพียงแค่ 100 บาทเท่านั้นแต่เนื่องจากสถานการณ์ของไวรัสโควิดทำให้ประชาชนนั้นต้องมีการใช้เงินอย่างจำกัด 

 

สนับสนุนโดย.    ทางเข้า Ufabet มือถือ

Citibank ยืนยันยังไม่ถอนธุรกิจในประเทศไทย 

          จากการที่มีข่าวออกมาว่าทางธนาคารซิตี้แบงก์จะมีการถอนธุรกิจออกจากประเทศต่างๆใน 2 ภูมิภาครวมทั้งสิ้น 12 ประเทศด้วยกัน ยืนยันยังไม่ถอนธุรกิจ ซึ่งในการคาดการณ์กันครั้งแรกนั้นมีการคาดการณ์กันว่าประเทศไทยจะรวมอยู่ใน 12 ประเทศนั้นด้วย  อย่างไรก็ตามทางด้านรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ของธนาคารซิตี้แบงก์ประเทศไทยได้ออกมายืนยันเป็นที่แน่นอนแล้วว่

าถึงแม้ว่าทางซิตี้กรุ๊ปนั้นจะมีการประกาศออกมาเกี่ยวกับเรื่องของการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดเกี่ยวกับการดำเนินการด้านธุรกิจ

       ซึ่งจะมีการยกเลิกธนาคารซิตี้แบงก์สาขาในต่างประเทศหลายประเทศด้วยกันแต่สำหรับประเทศไทยแล้วทางด้าน City Group จะยังคงเปิดให้บริการตามปกติดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าในประเทศไทยนั้นยังคงเปิดบริการของธนาคารซิตี้แบงก์เหมือนเดิมดังนั้นสำหรับลูกค้าที่ใช้บริการของธนาคารซิตี้แบงก์

อยู่ไม่ว่าจะเป็นบริการเกี่ยวกับเรื่องของทางการเงินหรือการเปิดใช้บัตรเครดิตกับธนาคารซิตี้แบงก์รวมถึงการใช้สิทธิประโยชน์ต่างๆที่มีความเกี่ยวพันกับทาง ธนาคาร Citibank นั้นจะยังคงสามารถใช้บริการได้ตามปกติเหมือนเดิมทุกอย่าง 

          ทางด้านรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ของธนาคารซิตี้แบงก์ประเทศไทยยังยืนยันว่าการดำเนินธุรกิจด้านธนาคารภายในประเทศไทยนั้นจะยังคงดำเนินการเหมือนเดิมทุกอย่างเป็นปกติซึ่ง   ธนาคารจะยังคงมีการเปิดเคาน์เตอร์คอยให้บริการลูกค้าที่มาใช้บริการตามปกติรวมถึงยังคงมีตู้ ATM ของ Citibank เปิดให้บริการลูกค้าตามปกติเช่นเดียวกันและหากลูกค้าคนไหนต้องการติดต่อกับทางธนาคารก็สามารถติดต่อผ่านทาง Call Center ได้เหมือนเดิม

       สำหรับสินเชื่อต่างๆทางธนาคาร Citibank ก็ยังคงเปิดบริการสินเชื่อเหมือนเดิมซึ่งถ้าหากลูกค้าคนไหนจะทำธุรกรรมทางการเงินหรือการลงทุนต่างๆก็สามารถติดต่อที่ Citibank ได้ทุกสาขาเช่นเดียวกันทั้งนี้สำหรับธุรกิจธนาคารซิตี้แบงก์ในประเทศไทยนั้นเรียกได้ว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมาธนาคาร Citibank นั้นได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเป็นอย่างดี 

         ดังนั้นทางธนาคารซิตี้แบงก์จึงขอยืนยันว่ายังคงเปิดให้บริการ Citibank ภายในประเทศไทยซึ่งประเทศที่จะถูกถอนธนาคารออกไปนั้นจะเป็นประเทศในกลุ่มทางภาคยุโรปตะวันออกกลางและแอฟริการวมถึงภาคเอเชียบางประเทศเพียงเท่านั้นซึ่งโดยรวมแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 12 ประเทศเท่านั้นเองส่วนที่เหลือทางด้านธนาคาร Citibank ยังคงให้บริการลูกค้าในแต่ละประเทศตามปกติ 

        ดังนั้นข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องของการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ทางการตลาดของ City Group ที่จะมีการถอดถอนธนาคารซิตี้แบงก์ออกจากประเทศไทยนั้นจึงได้มีการออกมารับรองจากรองผู้จัดการของธนาคารว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดซึ่งประชาชนที่มีการเปิดใช้งานบัตรเครดิตกับทาง Citibank หรือมีการฝากเงินไว้กับทาง Citibank ก็สามารถไว้วางใจได้ว่าจะยังคงใช้บริการกับทางเทศบาลได้ตามปกตินั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย.    Ufabet เข้าสู่ระบบ