การปรับตัวของร้านอาหารให้เหมาะกับยุคโควิด-19 

       ในยุคที่โควิด-19 ครองประเทศ ระบาดหนักไปทุกหย่อมหญ้า เป็นยุคที่ผุ้บริโภคต้องพยายามปรับตัวให้ใช้ชีวิตอยู่ให้ได้ท่ามกลางเชื้อไวรัส ที่คร่าชีวิตผู้คนนับไม่ถ้วน  การปรับตัวของร้านอาหาร และยังเป็นยุคของร้านอาหารที่ต้องปรับตัวตามสถานการณ์ของบ้านเมือง ในเมืองตอนนี้รัฐบาลได้ออกกฎห้ามร้านอาหารที่ขายอาหารในเขตพื้นที่สีแดง หรือร้านอาหารที่ขายในโซนที่โควิด-19 ระบาดหนักจำเป็นที่จะต้องรีบเข้ามาควบคุมดูแล 

     ดังนั้นกฎข้อบังคับอย่างหนึ่งที่ร้านอาหารถูก สบค. ออกมาบังคับให้ทำก็คือ การห้ามร้านอาหารอนุญาตให้ลูกค้านั่งกินอาหารที่ร้าน ทำได้เพียงแค่ ซื้อกลับไปกินที่บ้านเพียงเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่ากฎเกณฑ์แบบนี้ สร้างความไม่สะดวกทั้งกับเจ้าของร้านและลูกค้าเป็นอย่างมากเลยทีเดียว 

      ดังนั้นร้านอาหารในตอนนี้จึงต้องมีการปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกลับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพราะถ้าหากปิดร้านไปเลยไม่ยอมขายของ ก็จะไม่มีเงินใช้ แถมลูกจ้างของร้านอาหารคงต้องตกงานกันอีกเยอะ แต่หากจะขายของโดยให้ลูกค้าซื้อกลับบ้านเพียงอย่างเดียว ก็เกรงว่า อาหารที่ควรจะปรุงเสร็จแล้วกินเลย รสชาติจะไม่อร่อยหากต้องหิ้วกลับไปกินถึงบ้าน 

         ดังนั้นจึงมีร้านอาหารร้านหนึ่ง ในจังหวัดเชียงใหม่ มีการผุดไอเดียดีดี ขึ้นมา ซึ่งไอเดียนี้เขายังคงสามารถขายของได้และยังมีลูกค้ามาทานที่ร้านได้ โดยที่ไม่ผิดกฎของ สบค.  เลย นั่นก็คือการที่ทางร้านอาหาร เตรียมสถานที่ลานจอดรถเอาไว้ ทำที่บังแดดให้กับลูกค้า และเมื่อลูกค้าต้องการกินอาหารเพียงแค่สั่งว่าอยากกินเมนูอะไร แล้วทางร้านจะมีบริการยกอาหารมาบริการลูกค้าถึงที่รถ  นั่งกินในรถฟินฟินกันไปเลย 

              นับว่าเป็นไอเดียที่ดีมากมากเลยทีเดียว กับสถานการณ์ในตอนนี้ แต่ก็ยังมีร้านอาหารอีกหลายร้านที่ไม่สามารถทำแบบนี้ได้  ตอนนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับไอเดียของแต่ละร้านที่จะทำออกมาตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้หรือไม่นั่นเอง 

      สำหรับการระบาดของไวรัสครั้งที่สามที่กำลังระบาดอย่างหนักในตอนนี้นั้น สร้างความเดือดร้อนให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะร้านค้าที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้ลูกค้านั่งทานที่ร้าน เพราะกลัวการแพร่กระจายของไวรัสโควิด—19 นั้น ส่งผลต่อร้านค้ามากมายโดยเฉพาะรายได้ที่ตกลงเยอะมากในแต่ละวัน

       สิ่งที่ร้านอาหารทำได้ในตอนนี้ก็คือ พยายามหาสิ่งดึงดูด หรือออกโปรโมชั่นดีดีออกมาเพื่อให้ลูกค้าอยากมาซื้อของที่ร้าน เพื่อที่จะยังสามารถสร้างยอดขายให้กับทางร้านได้  และเราคงต้องภาวนาให้ประเทศไทยได้รับวัคซีนเร็วเร็ว เพื่อที่ประเทศไทยจะได้กลับไปใช้ชีวิตการได้ตามปกติเร็วๆ ค้าขายกันได้ตามปกติเหมือนเดิม

         

สนับสนุนโดย.  Ufabet เข้าสู่ระบบ

รัฐแจงแล้วเงินเยียวยานักเรียน จำนวนทั้งสิ้น สองพันบาทจะได้เมื่อไหร่ 

         การระบาดของไวรัสโควิด-19 สร้างผลกระทบต่อระบบการศึกษาอย่างหนัก เพราะนักเรียนไม่ว่าจะจังหวัดไหนก็ไม่สามารถเดินทางไปโรงเรียนได้ ทำให้ปัจจุบันนี้ทางโรงเรียนต้องเปิดการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น และส่งที่เป็นปัญหาตามมาก็คือผู้ปกครองของนักเรียนต่างก็ไม่ค่อยพอใจ เพราะการเรียนผ่านระบบออนไลน์นั้น

           ผู้ปกครองต้องเสียทั้งเวลาในการที่จะต้องนั่งเฝ้าบุตรหลานของตัวเองให้เรียนหนังสือในขณะเดียวกันก็ต้องมานั่งสอนการบ้านลูกหลานเองซึ่งผู้ปกครองหลายคนไม่มีเวลาว่างและบางคนก็ไม่รู้หนังสือ แต่ที่เป็นอุปสรรคในการเรียนออนไลน์อย่างหนักก็คือ การที่ผู้ปกครองต้องรับผิดชอบค่าไฟฟ้า ค่าอินเตอร์เน็ต รวมถึงบางคนมีฐานะยากจนไม่มีเงินซื้อคอมฯให้ลูกหลานเรียนออนไลน์ก็ต้องไปยืมเงินมาซื้อมือถือสมาร์ทโฟน เพื่อให้ลูกหลานได้มีเอาไว้เรียนออนไลน์นั่นเอง 

         อย่างไรตามปัญหาที่ผู้ปกครองที่ถึงแม้ว่าจะมีฐานะต่างก็ไม่ค่อยพอใจนั่นก็คือ การที่มีการเรียนออนไลน์ ประสิทธิภาพการเรียนนั้นได้ความรู้น้อยมากหากเทียบกับการที่เด็กไปเรียนที่โรงเรียน แต่ผู้ปกครองยังต้องรับผิดชอบค่าเทอมเต็มจำนวน นอกจากนี้บางโรงเรียน เช่น โรงเรียนเอกชน ยังมีการเรียกเก็บค่าไฟ ค่าแอร์ และค่าอื่นอื่นอีกมากมายทั้งที่เด็กไม่ได้ไปใช้งานเลย จึงนำมาซึ่งการเรียกร้องจากผู้ปกครองถึงกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐบาลให้ออกมาช่วยเหลือ

      อย่างไรก็ตามสิ่งที่กระทรวงศึกษาธิการทำได้นั้นเป็นเพียงแค่การส่งเอกสารไปยังโรงเรียนต่างต่างทั้งของรัฐบาลและเอกชน ในการขอความร่วมมือในการลดค่าเทอมและยกเว้นการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่เด็กไม่ได้ไปใช้งาน ซึ่งบางโรงเรียนก็ตอบสนองนโยบายของทางรัฐบาล แต่บางโรงเรียนก็ไม่ยอม เพราะอ้างว่าการเรียนออนไลน์ โรงเรียนก็ยังต้องเสียเงินจ้างครูมาสอนเด็กนักเรียนเช่นกัน

        ความช่วยเหลือจากกระทรวงศึกษาธิการล่าสุดนั้นได้มีการช่วยเหลือด้วยการมอบเงินเยียวยาให้กับผู้ปกครองโดยคิดเป็นจำนวนเด็กนักเรียนให้คนละ 2,000 บาทซึ่งทางรัฐบาลจะมีการโอนเงินให้กับทางโรงเรียนตามจำนวนเด็กนักเรียนที่มีการแจ้งไว้กับทางกระทรวงศึกษาธิการ

       หลังจากนั้นทางโรงเรียนจะเป็นผู้ดำเนินการโอนเงินดังกล่าวให้กับทางผู้ปกครองเองโดยในขณะนี้ได้มีการรายงานออกมาเรียบร้อยแล้วว่าผู้ปกครองจะสามารถรับเงินช่วยเหลือ 2,000 บาทได้ในวันที่เท่าไหร่โดยถ้าเป็นโรงเรียนรัฐบาลจะได้รับเงินช่วยเหลือตั้งแต่วันที่ 5 เดือนกันยายนปีพศ 2564 เป็นต้นไปแต่ถ้าหากเป็นโรงเรียนเอกชนจะได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาตั้งแต่วันที่ 7 เดือนกันยายนปีพศ. 2561 เป็นต้นไป

       อย่างไรก็ตามทางโรงเรียนจะเป็นผู้ประสานงานกับผู้ปกครองว่าเอกสารที่จะใช้สำหรับในการรับเงินนั้นมีอะไรบ้างและผู้ปกครองเองต้องตรวจสอบว่าบุตรหลานของตัวเองมีรายชื่อที่จะรับเงินได้หรือไม่ได้ที่ เว็บไซต์ regis-test.opec.go.th และ student.edudev.in.th

 

สนับสนุนโดย.  ufabet ฝากเงิน ออโต้

เศรษฐกิจของไทยในปี2564

ซึ่งเราคาดว่าในความเสี่ยงการเงินเฟ้อที่จะเร่งตัวขึ้นยังอยู่ที่บริหารจัดการได้เนื่องจากตลาดแรงงานในสหรัฐยังมีสแลปอยู่พอสมควรทำให้แรงกดดันต่อการเพิ่มขึ้นค่าแรงยังมีไม่มากนักดังนั้นจึงคาดว่าจะยังไม่ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะสั่นแต่ก็มีโอกาสที่จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในระยะกลางได้

นอกจากนี้เรามาดูที่เศรษฐกิจของประเทศไทยกันบ้างเราขอเริ่มที่การส่งออกโดยจากข้อมูลก็จะพบว่ามูลค่าของการส่งออกในไทยในช่วงหลังก็คือช่วงเดือน 2 เดือนระหว่าง ธ.ค. 63 ม.ค. 2564 ได้กลับมามีระดับเทียบเท่ากับในช่วงก่อนเกิดโควิด-19แล้วนับได้ว่าเป็นการฟื้นตัวที่เร็วเกินกว่าที่เคยคาดเอาไว้

และถ้ามองไปในอนาคตข้างหน้านี้แบบระยะสั้นๆการส่งออกก็น่าจะปรับตัวบวกขึ้นตามทิศทางของเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวจากการเร่งฉีดวัคซีนแล้วก็มาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ โดยเฉพาะสหรัฐตามที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้เพราะฉะนั้นเลยทำให้eicมีการปรับคาดการมูลค่าการส่งออกของประเทศไทยในปี2564เป็น6.4%จากเดิมที่เคยคาดเอาไว้ที่4%

เพราะฉะนั้นแล้วอย่างไรก็ดีแม้ว่าการส่งออกจะมีแนวโน้มตัวได้ดีกว่าที่คาดแต่การท่องเที่ยวจากต่างชาติของไทยยังคงมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวช้าโดยในปี2564เราคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติจะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย3.7ล้านคนเพราะว่าในการเดินทางระหว่างประเทศจะฟื้นตัวได้อย่างชัดเจนก็ต่อเมื่อประเทศส่วนใหญ่มีภาวะการคุ้มกันหมู่แล้ว

ซึ่งก็จะทำให้ประเทศเหล่านั้นกล้าที่จะเปิดประเทศต่อนักเดินทางทั้งขาเข้าและขอออกได้อย่างเสรีมากขึ้นอย่างไรก็ตามกลุ่มของประเทศที่ได้พัฒนาแล้วที่มีโอกาสได้รับภาวะภูมิคุ้มกันหมู่ก่อนในช่วงไตรมาสที่2-3ของปีนี้ตามที่ได้กล่าวไปในช่วงก่อนหน้านี้มันกลับไม่ใช่กลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของไทยยจึงทำให้การท่องเที่ยวของไทยยังมีแนวโน้มฟื้นตัวช้า

โดยคาดว่าน่าจะฟื้นตัวชัดเจนในช่วงไตรมาสที่4ของปีนี้เป็นต้นไปและเป็นช่วงที่ประเทศกำลังที่จะพัฒนาในเอเชียที่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลังของเราจะทยอยมีภูมิคุ้มกันหมู่มากขึ้น

ดังนั้นแล้วเรามาดูที่น่าเศรษฐกิจในประเทศกันบ้างการระบาดในรอบใหม่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาทำให้การฟื้นตัวของการใช้จ่ายและรายได้สดุดลงในระยะสั้น โดยจากการศึกษาข้อมูลที่ได้จากการระบาดรอบใหม่ได้มีผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยอย่างชัดเจนโดยเฉพาะในช่วงเดือนมกราคมแต่เรากลับพบว่ามีอัตตราลดลงจากช่วงเดียวกันในปีที่แล้วอยู่มาก เนื่องจากการดูแลและความเอาใจใส่ของคนในประเทศนั่นเอง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    ทางเข้า ufabet มือ ถือ

ปัญหาคนไทยส่วนใหญ่ไม่มีเงินออม

           ปัญหาคนไทยส่วนใหญ่ไม่มีเงินออม  ประเทศไทยมีคนใช้แรงงานมากถึง 81.8 เปอร์เซ็นต์   และแรงงานไทยนั้นจะมีค่าแรงได้รับเป็นแบบรายวันซึ่งโดยปกติแล้วรายได้ต่อวันนั้นจะอยู่ที่ 200 กว่าบาทไม่เกิน 300 บาทเท่านั้น ซึ่งโดยปกติแล้วแรงงานเหล่านี้เมื่อได้รับเงินค่าแรงต่อวันก็มักจะเอาไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

ซึ่งอาจกล่าวได้ว่ารายได้ที่เขาได้รับต่อวันนั้นพอดีกับรายจ่ายที่เขาต้องใช้งานต่อวันทำให้กลุ่มแรงงานเหล่านี้เป็นกลุ่มแรงงานที่ไม่มีเงินเก็บซึ่งคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วมีจำนวนสูงถึง 40.2 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว 

      อย่างไรก็ตามนอกจากรายงานเหล่านี้จะไม่มีเงินเก็บแล้วพวกเขายังมีการกู้หนี้ยืมสินมาใช้อีกด้วยซึ่งเรียกได้ว่าเป็นจำนวนสูงถึง 50 4.3% เดียวที่ไม่มีเงินเก็บและยังมีการกู้เงินมาใช้ซึ่งกลุ่มคนแรงงานเหล่านี้คือกลุ่มแรงงานที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือจากทางรัฐบาลอย่างเร่งด่วนในปัจจุบันนี้นั่นเอง

         อย่างไรก็ตามเมื่อเรามีการดูเกี่ยวกับเรื่องของสัดส่วนจำนวนประชากรในประเทศไทยที่สามารถดูแลตนเองได้เพราะมีเงินออมเอาไว้ใช้จ่ายยามช่วงวิกฤตของระบาด covid -19 อยู่ในตอนนี้นั้นกลับพบว่ามีคนที่มีเงินออมหรือมีรายจ่ายและรายรับพอเพียงกับค่าใช้จ่ายโดยที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งเงินจากทางรัฐบาลเข้าช่วยเหลือนั้นมีเพียงแค่ 15.1 เปอร์เซ็นต์เพียงเท่านั้น         

          ทำให้ในขณะนี้ประเทศไทยนั้นมีลูกหนี้ที่เป็นหนี้ของธนาคารเยอะเป็นอย่างมากเลยทีเดียวและด้วยสถานการณ์ของการระบาดของไวรัสโควิช- ในตอนนี้ทำให้กลุ่มแรงงานที่ทำงานได้เงินแบบวันต่อวันนั้นหลายคนตอนนี้ไม่มีงานทำและที่สำคัญไม่มีเงินเก็บที่จะเอามาใช้จำเป็นต้องรอการช่วยเหลือจากรัฐบาลจากโครงการต่างๆที่ออกมาช่วยเหลือและแรงงานเหล่านี้ก็มีการคาดหวังจากทางรัฐบาลว่าจะเข้ามาช่วยเหลือด้วยการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำให้ตามที่รัฐบาลเคยมีการหาเสียงเอาไว้ 

           สำหรับปัญหาที่คนไทยเกินกว่า 80% เป็นคนที่ไม่มีเงินออมนี้มันจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศไทยเป็นอย่างมากเลยทีเดียวเพราะไม่มีเงินหมุนเวียนภายในประเทศคนไทยไม่มีเงินออกมาจับจ่ายซื้อของทำให้เศรษฐกิจไม่สามารถเดินหน้าได้ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่รัฐบาลจำเป็นต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนรองลงมาจากการแก้ไขปัญหาการระบาดของไวรัสโควิตก็คือการหางานทำให้กับประชาชนที่กำลังตกงานอยู่ในตอนนี้เพื่อให้พวกเขานั้นสามารถมีรายได้และนำรายได้ในออกมาใช้จ่ายเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  gclub มือถือ ทดลองเล่น

จีนเตรียมส่งออกวัคซีนให้หลายประเทศ หลังอินเดียต้องเก็บวัคซีนให้ประชากรของตัวเอง

         จีนเตรียมส่งออกวัคซีนให้หลายประเทศ  และประเทศอินเดียกำลังเจอวิกฤติอย่างหนักทั้งวิกฤตการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ตอนนี้มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในแต่ละวันนั้นวันละไม่ต่ำกว่า 3 แสนคนในขณะที่ผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19  ในประเทศอินเดียนั้นก็ไม่ต่ำกว่าหลักหมื่นเลยทีเดียวซึ่งในขณะนี้มีข่าวออกมาว่าอินเดียนั้นมียอดของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิค-19 ที่เป็นยอดจริงๆนั้นมีมากกว่า 500 ล้านคนไปแล้ว 

           ด้วยปัญหาที่เกิดขึ้นนี้เองแม้ว่าทางสถานทูตอินเดียประจำประเทศต่างๆจะออกมาประสานงานกับต่างประเทศเพื่อทำการส่งออกวัคซีนที่ประเทศอินเดียได้มีการผลิตแต่ก็ไม่สามารถที่จะดำเนินการได้เนื่องจากว่าวัคซีนที่มีอยู่นั้นทางรัฐบาลของประเทศอินเดียเองจำเป็นที่จะต้องนำวัคซีนออกมาฉีดให้กับประชาชนของตนเองจึงเป็นโอกาสดีของประเทศจีนที่จะสามารถมีลูกค้าในการซื้อวัคซีนจากประเทศจีนไปใช้งานนั่นเอง 

        ตอนนี้ประเทศหลายประเทศที่อยู่ติดกับประเทศอินเดียเริ่มมองหาวัคซีนเข้าสู่ประเทศของตนเองแล้วเพราะอินเดียไม่สามารถส่งออกวัคซีนให้ได้แล้วซึ่งหลายประเทศนั้นได้มองไปที่ประเทศจีนเป็นหลัก โดยนายหวังอี้รัฐมนตรีการต่างประเทศของจีนได้มีการประชุมแบบ Video Conference กับผู้นำของประเทศอัฟกานิสถาน , ประเทศ บังคลาเทศ  

และ ประเทศเนปาลได้มีการเสนอเกี่ยวกับเรื่องของการส่งวัคซีนของประเทศจีนออกไปจำหน่ายให้โดยทางประเทศจีนยืนยันว่าวัคซีนที่จะมีการส่งไปให้นั้นจะมีการส่งไปให้เรื่อยๆและไม่มีการหยุดชะงักอย่างที่อินเดียทำอย่างแน่นอน           

           นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีของจีนยังได้มีการส่งหนังสือไปยังนายกรัฐมนตรีของประเทศอินเดียด้วยว่าหากรัฐมนตรีของประเทศอินเดียต้องการที่จะรับวัคซีนจากประเทศจีนทางจีนเองก็ยินดีที่จะส่งวัคซีนไปช่วยเหลือเช่นเดียวกัน  สำนักข่าวบูมเบิร์ก มีการวิเคราะห์ออกมาว่าการที่รัฐบาลของประเทศจีนออกมานำเสนอวัคซีนของประเทศตนเอง

ในครั้งนี้นั้นน่าจะเป็นการ โจมตีทางการทูตของประเทศอินเดีย ที่ต้องการส่งเสริมความสัมพันธ์ในภูมิภาค และต่อต้านอิทธิพลทางการเมืองและทางเศรษฐกิจของจีนซึ่งก่อนหน้านี้ประเทศอินเดียคือหนึ่งในประเทศที่มีการต่อต้านสินค้าของประเทศจีนโดยร่วมมือกันกับประเทศสหรัฐอเมริกานั่นเอง 

             สำหรับวัคซีนในประเทศอินเดียที่มีการใช้กันอยู่นั้นและมีการนำออกไปแจกจ่ายประเทศอื่นๆนั้นเป็นวัคซีนของบริษัท astrazeneca   ซึ่งวัคซีนนี้เป็นของสัญชาติอังกฤษแต่ไปผลิตที่สถาบันเซรุ่มของประเทศอินเดียแทน     

        สำหรับในตอนนี้น้ำประเทศอินเดียคือประเทศที่มีการผลิตวัคซีนหรือเรียกว่าเป็นแหล่งผลิตวัคซีนที่ใหญ่ที่สุดของโลกเลยก็ว่าได้เพราะวัคซีนที่นำออกมาจำหน่ายให้ทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ 60% นั้นมาจากสถาบันผลิตวัคซีนของประเทศอินเดียทั้งสิ้นแต่ในขณะนี้นั้นประเทศอินเดียกำลังเข้าขั้นวิกฤตในเรื่องของผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิตเยอะทำให้วัคซีนของประเทศอินเดียนั้นมีการระงับส่งออกไปจำหน่ายให้ทั่วโลกเป็นการชั่วคราวนั้นเอง 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  บาคาร่า w88